วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558
คำนำ
คำนำ
วิธีการในการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ใช้หลักการวิเคราะห์และออกแบบระบบ มีวงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ ( SDLC ) 7 ขั้นตอน ซึ่งประกอบด้วยการกำหนดปัญหา การวิเคราะห์ การออกแบบ การพัฒนา การทดสอบ การติดตั้ง และการบำรุงรักษา การทำโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าอย่างอิสระในเรื่องที่สนใจจะแบ่งประเภทของโครงงานออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่ โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา โครงงานการพัฒนาเครื่องมือ โครงงานจำลองทฤษฎี โครงงานประยุกต์ใช้งาน และโครงงานพัฒนาระบบ
ผู้จัดทำ
นักเรียนชั้นมธยมศึกษาปีที่ 6
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
ขั้นตอนการทำโครงงานคอมพิวเตอร์
1. เลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าข้อมูลและทฤษฎีต่างๆเพื่อใช้ประกอบตามโครงงาน
3. จัดทำเค้าโครงงานในแต่ละขั้นตอน เพื่อเป็นกรอบแนวคิด แนวทางในการจัดทำโครงงาน และวางแผนการดำเนินงานตามขั้นตอน นำเสนอครูที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาในการจัดทำโครงงาน
4. จัดทำอุปกรณ์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครื่องมือต่างๆที่จะใช้ตามโครงงาน
5. เริ่มปฏิบัติงานตามโครงงาน
6. การเขียนรายงานการจัดทำโครงงาน
7. การนำเสนอและเผยแพร่โครงงาน
องค์ประกอบเค้าโครงของโครงงาน ประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงาน โดยระบุประเภทของโครงงานอย่างจัดเจน
2. ชื่อ นามสกุล ผู้จัดทำโครงงาน
3. ชื่อ นามสกุล ครูที่ปรึกษาโครงงาน
4. ระยะเวลาการดำเนินงาน
5. แนวคิด ที่มา และความสำคัญของโครงงาน อธิบายแนวคิดของการจัดทำโครงงานนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มีผู้อื่นทำไว้แล้ว ต้องบอกถึงการปรับปรุง การเพิ่มเติม และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
6. วัตถุประสงค์ของโครงงาน บอกวัตถุประสงค์ในการจัดทำโครงงานเป็นข้อๆ
7. หลักการและทฤษฎี โดยอธิบายถึงหลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
8. วิธีดำเนินงาน โดนจะระบุ
8.1 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
8.2 คุณลักษณะของผลงาน
8.3 เทคนิคที่ใช้ในการพัฒนา
8.4 การบวนการในการแก้ปัญหา
8.5 วิธีการเก็บข้อมูล
8.6 วิธีการพัฒนา
8.7 การทดสอบ
8.8 การนำเสนอผลงาน
8.9 งาบประมาณในการดำเนินโครงงาน
9. แผนปฏิบัติงาน ให้ระบุการปฏิบัติงานเป็นขั้นตอนตามลำดับ และแต่ละขั้นตอนใช้เวลาเท่าไหร่
10. ผลที่คาดว่าจะได้รับจัดทำโครงงาน
11. เอกสารอ้างอิงที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เพื่อนำมาจัดทำเป็ฯโครงงานนี้
1. เลือกหัวข้อโครงงานที่สนใจ
2. ศึกษาค้นคว้าข้อมูลและทฤษฎีต่างๆเพื่อใช้ประกอบตามโครงงาน
3. จัดทำเค้าโครงงานในแต่ละขั้นตอน เพื่อเป็นกรอบแนวคิด แนวทางในการจัดทำโครงงาน และวางแผนการดำเนินงานตามขั้นตอน นำเสนอครูที่ปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำปรึกษาในการจัดทำโครงงาน
4. จัดทำอุปกรณ์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือเครื่องมือต่างๆที่จะใช้ตามโครงงาน
5. เริ่มปฏิบัติงานตามโครงงาน
6. การเขียนรายงานการจัดทำโครงงาน
7. การนำเสนอและเผยแพร่โครงงาน
องค์ประกอบเค้าโครงของโครงงาน ประกอบด้วย
1. ชื่อโครงงาน โดยระบุประเภทของโครงงานอย่างจัดเจน
2. ชื่อ นามสกุล ผู้จัดทำโครงงาน
3. ชื่อ นามสกุล ครูที่ปรึกษาโครงงาน
4. ระยะเวลาการดำเนินงาน
5. แนวคิด ที่มา และความสำคัญของโครงงาน อธิบายแนวคิดของการจัดทำโครงงานนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่มีผู้อื่นทำไว้แล้ว ต้องบอกถึงการปรับปรุง การเพิ่มเติม และประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น
6. วัตถุประสงค์ของโครงงาน บอกวัตถุประสงค์ในการจัดทำโครงงานเป็นข้อๆ
7. หลักการและทฤษฎี โดยอธิบายถึงหลักการและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
8. วิธีดำเนินงาน โดนจะระบุ
8.1 วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้
8.2 คุณลักษณะของผลงาน
8.3 เทคนิคที่ใช้ในการพัฒนา
8.4 การบวนการในการแก้ปัญหา
8.5 วิธีการเก็บข้อมูล
8.6 วิธีการพัฒนา
8.7 การทดสอบ
8.8 การนำเสนอผลงาน
8.9 งาบประมาณในการดำเนินโครงงาน
9. แผนปฏิบัติงาน ให้ระบุการปฏิบัติงานเป็นขั้นตอนตามลำดับ และแต่ละขั้นตอนใช้เวลาเท่าไหร่
10. ผลที่คาดว่าจะได้รับจัดทำโครงงาน
11. เอกสารอ้างอิงที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า เพื่อนำมาจัดทำเป็ฯโครงงานนี้
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
การพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์
โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นการนำความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม หรือการใช้ซอฟต์แวร์ประยุกต์ เพื่อผลิตผลงานสำหรับการแก้ปัญหา หรือนำผลงานมาประยุกต์ในงานจริง การทำโครงงานจะต้องใช้ความรู้ ประสบการณ์ และการศึกษาค้นคว้า เพื่อวางแผนและดำเนินการพัฒนา โดยสามารถเลือกใช้เครื่องมือพัฒนาที่เป็นซอฟต์แวร์ประยุกต์หรือภาษาคอมพิวเตอร์ตามความเหมาะสมของชิ้นงาน ทั้งนี้ควรขอคำปรึกษาจากครูผู้สอน หรือผู้ทรงคุณวุฒิ เป้าหมายสูงสุดของการทำโครงงานคือ การนำโครงงานไปใช้งาน และก่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตจริง
กิจกรรมของโครงงานคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักดังนี้1. โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรมที่เกี่ยวข้องกับฮาร์ดแวร์และซอฟแวร์
2. สามารถเลือกเรื่อง หรือ หัวข้อที่ต้องการศึกษาค้นคว้าตามความสนใจได้
3. คิดค้นนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ด้วยตนเอง ตามความรู้ความสามารที่ได้ศึกษามา
4. สามารถศึกษา สรุป วางแผน และนำเสนองานตามขั้นตอนของโครงงานด้วยตนเอง
โดยมีครูเป็นที่ปรึกษาโครงงาน
วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558
วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ

วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
เมื่อเกิดปัญหาหรือมีความยุ่งอยากในการทำงาน มนุษย์จะหาวิธีการในการแก้ปัญหาโดยการศึกษาจากระบบงานเดิม แต่ต้องนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น ดั้งนั้นสามารถสรุปวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใช้หลักการวิเคราะห์และออกแบบ มีวงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ( System Development Life Cycle : SDLC ) 7 ขั้นตอน ดังนี้
1. การกำหนดปัญหา (Problem Definition)
กำหนดปัญหาของระบบงานเดิม หรือระบบงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และการกำหนดปัญหาก็จะเป็นขั้นตอนของการกำหนดขอบเขตของระบบงาน ศึกษาความเป็นไปได้ของระบบงานใหม่ความต้องการระบบงานของผู้ใช้ นำข้อมูลเหล่านี้มาสรูปเป็นขั้นตอนและขอบเขตในการการจัดระบบงานใหม่
2. การวิเคราะห์ (Analysis)
วิเคราะห์ระบบงานที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน วิเคราะห์ความต้องการระบบงานใหม่นำมาสร้างเป็นแบบจำลอง และสร้างป็นแผยภาพ(Data flow Diagram : DFD) เพื่อดูการเชื่อมโยงข้อมูลในแต่ละส่วน การแบ่งขอบเขตของงาน ความเกี่ยวข้องกันในแต่ละส่วนของงาน ฐานข้อมูลที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในระบบงาน
![]() |
แสดงการวิเคราะห์ระบบด้วย (Data fiow diagram) |
3. การออกแบบ (Design)
การออกแบบเป็นการนำขั้นตอนจากการวิเคราะห์มาออกแบบ เพื่อสามารถนำระบบนี้ไปปฏิบัติงานจริง การออกแบบการนำข้อมูลเข้า รูปแบบการรับข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการแสดงผลข้อมูลทางจอภาพ ทางรายงาน ในรูปแบบฟอร์มต่างๆในแต่ละส่วนของงาน รวมทั้งการออกแบบฐานข้อมูล
พัฒนาโปรแกรมด้วยการเลือภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมมาใช้ ตามขั้นตอนของระบบงานที่ได้ออกแบบไว้แล้ว ขั้นตอนของการพัฒนาอาจใช้เครื่องมือCASE Tools (computer Aided Software Engineering)มาช่วย เมื่อทำการพัฒนาระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องจัดทำเอกสารประกอบโปรแกรมต่อไป
5. การทดสอบ (Testing)
การทดสอบเป็นขั้นตอนของการทดสองก่อนที่จะนำระบบไปติดตั้งเพื่อใช้งานจริงซึ่งจะทดสอบทั้งความถูกต้องตามโครงสร้างของภาษาที่ใช้ในการพัฒนาและความถูกต้องตามความต้องการของผู้ใช้ เมื่อทดสอบระบบถูกต้องพร้อมที่จะนำไปติดตั้งใช้งานแล้วต้องทำการอบรมการใช้ระบบให้แก่ผู้ใช้ด้วย
6. การติดตั้ง (Implementation)
6. การติดตั้ง (Implementation)
การติดตั้งระบบเพื่อใช้งานจริง สามารถนำระบบงานใหม่มาติดตั้งเพื่อใช้งานได้ 3 ลักษณะคือ
6.1 นำระบบงานใหม่ทำคู่ขนานไปกับระบบงานเดิม เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องไปพร้อมๆกันซึ่งวิธีนี้เมื่อระบบใหม่มีปัญหา ก็ยังคงมีระบบเดิมรองรับอยู่ จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในการทำงาน
6.2 นำระบบงานใหม่มาใช้แทนที่ระบบงานเดิมทีละส่วนของงาน เป็นวิธีการที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทั้งในระบบครั้งเดียว แต่จะปรับเปลี่ยนไปครั้งระแผนกหรืองาน เมื่อแผนกใดพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคลากรก็จะทำการเปลี่ยนแปลง
6.3 ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งระบบพร้อมกัน ซึ่งวิธีนี้จะมีความเสี่ยงสูง เพราะถ้าระบบใหม่ยังมีข้อผิดพลาดทำให้การทำงานเกิดข้อผิดพลาดไปด้วย
7. การบำรุงรักษา (Maintenance)
การบำรุงรักษาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ
การบำรุงรักษาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ
7.1 การบำรุงรักษาด้านซอฟต์แวร์ เช่น เมื่อติดตั้งระบบเพื่อใช้งานในสถานการณ์จริงอาจเกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน หรือผู้ใช้ต้องการเพิ่มเติมระบบงาน
7.2 การบำรุงรักษาด้านฮาร์ดแวร์ คือ การดูแลอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นจะถูกตรวจเช็กตามระยะเวลาในการใช้งาน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)