วันพฤหัสบดีที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2558

วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ

วงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ
      
         เมื่อเกิดปัญหาหรือมีความยุ่งอยากในการทำงาน มนุษย์จะหาวิธีการในการแก้ปัญหาโดยการศึกษาจากระบบงานเดิม แต่ต้องนำมาพัฒนาให้ดีขึ้น ดั้งนั้นสามารถสรุปวิธีการแก้ปัญหาด้วยกระบวนการเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยใช้หลักการวิเคราะห์และออกแบบ มีวงจรการพัฒนาระบบสารสนเทศ( System Development Life Cycle : SDLC ) 7 ขั้นตอน ดังนี้

        1. การกำหนดปัญหา (Problem Definition)
   กำหนดปัญหาของระบบงานเดิม หรือระบบงานที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และการกำหนดปัญหาก็จะเป็นขั้นตอนของการกำหนดขอบเขตของระบบงาน ศึกษาความเป็นไปได้ของระบบงานใหม่ความต้องการระบบงานของผู้ใช้ นำข้อมูลเหล่านี้มาสรูปเป็นขั้นตอนและขอบเขตในการการจัดระบบงานใหม่
        2. การวิเคราะห์ (Analysis)
   วิเคราะห์ระบบงานที่ดำเนินงานอยู่ในปัจจุบัน วิเคราะห์ความต้องการระบบงานใหม่นำมาสร้างเป็นแบบจำลอง และสร้างป็นแผยภาพ(Data flow Diagram : DFD) เพื่อดูการเชื่อมโยงข้อมูลในแต่ละส่วน การแบ่งขอบเขตของงาน ความเกี่ยวข้องกันในแต่ละส่วนของงาน ฐานข้อมูลที่จะเข้ามาเกี่ยวข้องในระบบงาน
แสดงการวิเคราะห์ระบบด้วย (Data fiow diagram)
      3. การออกแบบ (Design)
   การออกแบบเป็นการนำขั้นตอนจากการวิเคราะห์มาออกแบบ เพื่อสามารถนำระบบนี้ไปปฏิบัติงานจริง การออกแบบการนำข้อมูลเข้า รูปแบบการรับข้อมูล การประมวลผลข้อมูล และการแสดงผลข้อมูลทางจอภาพ ทางรายงาน ในรูปแบบฟอร์มต่างๆในแต่ละส่วนของงาน รวมทั้งการออกแบบฐานข้อมูล




images.png
แสดงตัวอย่างลักษณะการออกแบบผังงาน (Flowchart)
        4. การพัฒนา (Development)
   พัฒนาโปรแกรมด้วยการเลือภาษาคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมมาใช้ ตามขั้นตอนของระบบงานที่ได้ออกแบบไว้แล้ว ขั้นตอนของการพัฒนาอาจใช้เครื่องมือCASE Tools (computer Aided Software Engineering)มาช่วย เมื่อทำการพัฒนาระบบเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะต้องจัดทำเอกสารประกอบโปรแกรมต่อไป
        5. การทดสอบ (Testing)
   การทดสอบเป็นขั้นตอนของการทดสองก่อนที่จะนำระบบไปติดตั้งเพื่อใช้งานจริงซึ่งจะทดสอบทั้งความถูกต้องตามโครงสร้างของภาษาที่ใช้ในการพัฒนาและความถูกต้องตามความต้องการของผู้ใช้  เมื่อทดสอบระบบถูกต้องพร้อมที่จะนำไปติดตั้งใช้งานแล้วต้องทำการอบรมการใช้ระบบให้แก่ผู้ใช้ด้วย
        6. การติดตั้ง (Implementation)
   การติดตั้งระบบเพื่อใช้งานจริง สามารถนำระบบงานใหม่มาติดตั้งเพื่อใช้งานได้ 3 ลักษณะคือ
   6.1 นำระบบงานใหม่ทำคู่ขนานไปกับระบบงานเดิม เพื่อเป็นการตรวจสอบความถูกต้องไปพร้อมๆกันซึ่งวิธีนี้เมื่อระบบใหม่มีปัญหา ก็ยังคงมีระบบเดิมรองรับอยู่ จะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายในการทำงาน
   6.2 นำระบบงานใหม่มาใช้แทนที่ระบบงานเดิมทีละส่วนของงาน เป็นวิธีการที่ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงทั้งในระบบครั้งเดียว แต่จะปรับเปลี่ยนไปครั้งระแผนกหรืองาน เมื่อแผนกใดพร้อมทั้งอุปกรณ์และบุคลากรก็จะทำการเปลี่ยนแปลง
   6.3 ทำการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งระบบพร้อมกัน ซึ่งวิธีนี้จะมีความเสี่ยงสูง เพราะถ้าระบบใหม่ยังมีข้อผิดพลาดทำให้การทำงานเกิดข้อผิดพลาดไปด้วย
        7. การบำรุงรักษา (Maintenance)
    การบำรุงรักษาจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ด้าน คือ 
   7.1 การบำรุงรักษาด้านซอฟต์แวร์ เช่น เมื่อติดตั้งระบบเพื่อใช้งานในสถานการณ์จริงอาจเกิดข้อผิดพลาดในการทำงาน หรือผู้ใช้ต้องการเพิ่มเติมระบบงาน
    7.2 การบำรุงรักษาด้านฮาร์ดแวร์ คือ การดูแลอุปกรณ์ต่างๆให้อยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ ซึ่งอุปกรณ์เหล่านั้นจะถูกตรวจเช็กตามระยะเวลาในการใช้งาน